สภาพอากาศในแต่ละเดือน สำหรับการท่องเที่ยวทางทะเล

สภาพอากาศในแต่ละเดือน สำหรับการท่องเที่ยวทางทะเล


เดือนมกราคม
เดือน นี้มีลมมรสุม ตอ./น. พัดจากประเทศจีนลงมา ก่อให้เกิดความหนาวเย็นในพื้นที่ตอนบนของไทย ส่วนการท่องเที่ยวทางทะเล ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ สำหรับทะเลอันดามัน ก็ไม่มีลมมรสุม ตต./ต. ทำให้ทะเลค่อนข้างสงบ สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเดือนมกราคม คือ หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ ภูเก็ต พีพี ทะเลกระบี่ ทะเลตรัง ลงไปถึงหมู่เกาะตะรุเตา สำหรับฝั่งอ่าวไทย ถือเป็นช่วงที่ดีมาก สำหรับการดำน้ำที่ พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะช้าง ส่วนเกาะเต่า และทะเลชุมพร ก็สามารถเริ่มไปได้ตั้งแต่ช่วงนี้


เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม
เป็น ช่วงที่ลมมรสุม ตอ./น. ที่พัดมาจากประเทศจีน เริ่มน้อยลง เป็นเดือนที่สามารถท่องเที่ยวทางทะเลได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน สถานที่ที่เหมาะสมที่สุด สำหรับฝั่ง อันดามัน คือ สิมิลัน - สุรินทร์ หินแดง หินม่วง พีพี ทะเลกระบี่ ทะเลตรัง เช่น เกาะไหง เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะรอก หมู่เกาะห้า ตะรุเตา เหลาเหลียง อาดัง ราวี หลีเป๊ะ เกาะไข่ ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพะงัน เกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด เรียกได้ว่าทั่วทุกที่ของทะเลไทยเลยทีเดียว


เดือนเมษายน
เดือน นี้จะมีพายุพัดจากอ่าวเบงกอล เข้ามาทางภาคใต้ตอนบนในช่วงกลางเดือน และมาเป็นช่วงๆ ไม่สม่ำเสมอ ทำให้มีลมแรง และคลื่นสูงบริเวณ หมู่เกาะสิมิลัน และหมู่เกาะสุรินทร์ในบางวัน ส่วนอันดามันตอนใต้ไม่ค่อยได้รับอิทธิพลจากลมนี้ ทะเลอันดามันใต้ ตั้งแต่ ภูเก็ต พีพี หินแดง หินม่วง หมู่เกาะในทะเลตรัง ลงไปถึงหมู่เกาะตะรุเตา จึงเป็นบริเวณที่น่าเที่ยวมากที่สุด ส่วนฝั่งอ่าวไทย จะเริ่มมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทางอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้มีฝนตกประปราย และมีคลื่นลมในทะเลบ้าง แต่ยังไม่มีผลกระทบกับ การท่องเที่ยวบริเวณ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ทะเลชุมพร หรือ ทะเลช่วงบน เช่น พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะเสม็ด เกาะช้าง และเกาะกูด


เดือนพฤษภาคม
เดือน นี้เริ่มมีลมมรสุม ตต./ต. พัดเข้ามาทางฝั่งทะเลอันดามัน ในช่วงต้นเดือน - กลางเดือน ยังพอดำน้ำ หรือท่องเที่ยวทางหมู่เกาะสิมิลัน และหมู่เกาะตะรุเตาได้บ้าง แต่อาจเจอคลื่นสูงบ้างในบางวัน ส่วนร่องความกดอากาศต่ำ ที่ก่อให้เกิดพายุหมุนเขตร้อนในทะเลจีนใต้ ซึ่งได้พาดผ่านทางตอนใต้ ของประเทศไทย ตั้งแต่เดือนเม.ย. จะเคลื่อนตัวสูงขึ้นมาถึงเวียดนาม และเกิดลมพายุพัดเข้าฝั่งทางเวียดนาม และลาว ทำให้มีฝนตกทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย แต่ไม่มีผลกระทบต่อ อ่าวไทย ทั้งตอนบน และตอนกลาง ทำให้ยังไปเที่ยวทะเลในฝั่งนี้ได้ เช่น เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด เกาะเต่า เกาะนางยวน และทะเลชุมพร ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี รวมไปถึงกองหินโลซิน ที่จังหวัดนราธิวาส


เดือนมิถุนายน - กรกฎาคม
ตั้งแต่ เดือน พฤษภาคมถึงตุลาคม จะมีลมมรสุม ตต./ต. พัดเข้าทางฝั่งทะเลอันดามัน ในระหว่างนี้ จึงควรงดท่องเที่ยวในทะเลแถบนี้ ส่วนร่องความกดอากาศต่ำ ซึ่งเป็นแนวของพายุหมุนเขตร้อน จะเคลื่อนตัวขึ้นไปยังตอนใต้ของประเทศจีน ทำให้ช่วงกลางเดือน มิ.ย. - ต้นก.ค. มีฝนตก ในประเทศไทยเพียงเล็กน้อย ซึ่งเราเรียกช่วงนี้ว่า "ฝนทิ้งช่วง" พื้นที่ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวคือ พื้นที่ทั้งหมดของอ่าวไทย ทั้งตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง อันดามันเหนือ ควรงดเว้นการท่องเที่ยว ส่วนอันดามันใต้ เช่น พีพี หินแดง หินม่วง เกาะห้า ทะเลตรัง ก็ยังพอเดินทางท่องเที่ยวได้ แต่อาจต้องลุ้นกันว่า วันนี้จะมีลมพายุพัดเข้ามาหรือไม่


เดือนสิงหาคม - กันยายน
ลม มรสุม ตต./ต. ยังคงมีอิทธิพลกับทะเลอันดามันอยู่ ส่วนร่องความกดอากาศต่ำก็เริ่มเคลื่อนตัวจากประเทศจีนตอนใต้ ลงมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีลมกรรโชกแรง และฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทะเลที่เหมาะสำหรับเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้คือ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง ลงไปถึงกองหินโลซิน ส่วนอ่าวไทยตอนบน พัทยา สัตหีบ แสมสาร อาจมีลมแรง และคลื่นสูงในบางวัน สำหรับอันดามันใต้ ยังคงเป็นเหมือนเดือน มิ.ย. - ก.ค.


เดือนตุลาคม
ลม มรสุม ตต./ต. เริ่มอ่อนกำลังลง แต่ยังคงมีอยู่บ้าง เดือนนี้ถือเป็นเดือนแรกของการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร สำหรับนักดำน้ำมือใหม่ ควรรออีกซักนิด อย่าเพิ่งรีบไปดำน้ำในช่วงนี้ เพราะการขึ้นลงเรือจะลำบากพอสมควร แต่ไม่เป็นปัญหา สำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ ส่วนพายุหมุนเขตร้อนทางฝั่งตะวันออกของไทย จะเริ่มเคลื่อนตัวลงมายังอ่าวไทยตอนกลาง ทำให้มีลม และฝนตกในพื้นที่ เกาะเต่า เกาะนางยวน และเกาะสมุย และกองหินโลซิน ส่วนอ่าวไทยตอนบน ได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย


เดือนพฤศจิกายน
อิทธิพล ของลมมรสุม ตต./ต. หมดไปแล้ว แต่อาจยังมีลม ซึ่งทำให้เกิดคลื่นสูง 1-2 เมตร เป็นช่วงๆ ส่วนพายุหมุนเขตร้อน ยังคงมีผลต่ออ่าวไทยตอนล่างอยู่บ้าง ในช่วงนี้จะมีลมมรสุม ตอ./น. เริ่มพัดจากจีนลงมาไทย นำมาเพียงความหนาวเย็นเท่านั้น ไม่มีผลกระทบกับการท่องเที่ยวทางทะเล พื้นที่ที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวในเดือนนี้ได้แก่ ทะเลอันดามันทั้งเหนือ และใต้ อ่าวไทยตอนบน บริเวณ พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด ส่วนอ่าวไทยตอนกลาง และตอนล่าง บริเวณ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะสมุย และกองหินโลซิน ควรชะลอการท่องเที่ยวไปก่อน


เดือนธันวาคม
พายุ หมุนเขตร้อนที่มาจากทะเลจีนใต้ เริ่มอ่อนกำลังลง ลมมรสุม ตอ./น. ไม่มีผลกับการท่องเที่ยวทางทะเล ทำให้ในเดือนนี้ สามารถไปเที่ยวทะเล ได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งอันดามันเหนือ - ใต้ อ่าวไทยตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง

อย่างไรก็ตาม นอกจากการเปลี่ยนแปลง ของอากาศตามฤดูกาลแล้ว ปรากฎการณ์เอลนีโญ และลานีญา ก็ยังมีผลกระทบต่อสภาพอากาศ ของประเทศไทยด้วย ทำให้สภาพอากาศในแต่ละปีเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นจึงควรติดตามข่าวสาร จากกรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิดทุกครั้ง ก่อนที่จะวางแผนเดินทางท่องเที่ยว เพื่อให้คุณได้มีความสุข สนุกสนาน กับวันหยุดพักผ่อนของคุณ และครอบครัว

เว็บที่ไปคัดลอกมา http://porjoo.multiply.com/journal/item/8
เค้าว่าเอามาจากที่นี่อีกที
ที่มา easydivers.net
ภาพและข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
เขียนโดย ศุภเศรษฐ์ อารีประเสริฐกุล

Go to Luang Prabang

การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและประหยัดเวลา(แต่ไม่ประหยัดเงิน) ที่สุด สามารถเลือกเส้นทางการบินได้หลากหลายรูปแบบทั้งบินตรงและบินแบบอ้อมๆ

1.การบินตรง (Direct Flight) กรุงเทพ – หลวงพระบาง

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways - PG)

เอเชียบูติคแอร์ไลน์สายเลือดไทย จับกลุ่มลูกค้าที่มีระดับและฐานะดี โดยบินตรงจากท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ สู่หลวงพระบางทุกวัน ด้วยเครื่องบินแบบ ATR 72-500 วันละ 2 เที่ยวบิน พร้อมรับบริการดุจความประทับใจแห่งเอเชียได้ที่ Coffee Lounge ภายในสนามบินและบนเครื่อง

กรุงเทพ - หลวงพระบาง

PG941 9.15 – 11.15 น. (Daily)
PG945 13.00 – 15.00 น. (Daily)

หลวงพระบาง - กรุงเทพ
(มีค่าธรรมเนียมขาออกจากสนามบินหลวงพระบางอีก 10 USD/100,000 กีบ/ 400 บาท)

PG942 11.55 – 13.55 น. (Daily)
PG946 15.40 – 17.40 น. (Daily)

สายการบินแห่งชาติของประเทศลาว มีบริการเที่ยวบินตรงสู่หลวงพระบาง 3 เส้นทางคือ

กรุงเทพ - หลวงพระบาง
เชียงใหม่ - หลวงพระบาง
อุดรธานี - หลวงพระบาง

ด้วยเครื่องบินแบบ ATR 72-200 และ MA 60 ล่าสุดการบินลาวได้นำเครื่องบินแบบ ATR 72-500
เข้าประจำการฝูงบินเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ซึ่งราคาค่าโดยสารจะย่อมเยากว่าสายการบินบางกอกแอร์เวย์สเล็กน้อย

กรุงเทพ - หลวงพระบาง

QV643 14.15 – 16.05 น. บินทุกวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์
QV643 10.40 – 12.30 น. บินทุกวันอังคาร พุธ ศุกร์ อาทิตย์

หลวงพระบาง - กรุงเทพ

QV633 11.30 – 13.20 น. บินทุกวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์
QV633 8.00 – 9.40 น. บินทุกวันอังคาร พุธ ศุกร์ อาทิตย์

สำหรับชาวเชียงใหม่ ที่จะเดินทางก็สะดวกสบายเช่นกัน หรือถ้าเช็คราคาช่วงเชียงใหม่ - หลวงพระบาง
แล้วประหยัดกว่า จะบินจากกรุงเทพด้วยสายการบินโลว์คอสต์ มาต่อเครื่องการบินลาวที่เชียงใหม่ก็ย่อมได้เช่นกัน

เชียงใหม่ – หลวงพระบาง

QV645 15.50 – 16.50 น. บินทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ อาทิตย์
QV645 15.05 – 16.05 น. บินทุกวัน (เฉพาะเดือนสิงหาคม – เมษายน)

หลวงพระบาง - เชียงใหม่

QV635 14.10 – 15.10 น. บินทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ อาทิตย์
QV635 13.10 – 14.10 น. บินทุกวัน (เฉพาะเดือนสิงหาคม – เมษายน)

นอกจาก จ.เชียงใหม่แล้ว จ.อุดรธานี ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะเป็นการบินตรง (Direct flight) เช่นเดียวกัน

อุดรธานี - หลวงพระบาง

QV622 12.20 – 13.10 น. บินเฉพาะวันอังคาร ศุกร์ วันอาทิตย์

หลวงพระบาง - อุดรธานี

QV621 10.50 – 11.40 น. บินเฉพาะวันอังคาร ศุกร์ วันอาทิตย์

2. บินอ้อม

แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลามากพอสมควรอาจเลือกไป Trip เดียวได้เที่ยวหลายๆแห่ง ก็สามารถเลือกเดินทางโดยผ่านทางเวียงจันทน์เมืองหลวงของประเทศ สปป.ลาว ซึ่งเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ย่อมเยาเหมือนกัน ก็คือ การนั่งเครื่องบินสายการบินโลว์คอสต์

กรุงเทพ - อุดรธานี แล้วข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวไปต่อเครื่องบิน เวียงจันทน์ - หลวงพระบาง ซึ่งจะประหยัดเงินมากกว่าเที่ยวบินที่บินตรงได้พอสมควร

กรุงเทพ – อุดรธานี

การบินไทย : กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) – อุดรธานี

TG1002 09.45 – 10.50 น. (Daily)
TG1010 13.30 – 14.35 น. (Daily)
TG1014 18.10 – 19.15 น. (Daily)

สายการบินนกแอร์ : กรุงเทพ (ดอนเมือง) – อุดรธานี

DD9200 06.00 – 7.05 น. (Daily)
DD9210 12.20 – 13.25 น. (Daily)
DD9216 17.00 - 18.05 น. (Daily)

สายการบินไทยแอร์เอเชีย : กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) – อุดรธานี

FD3360 07.25 – 08.25 น. (Daily)
FD3364 16.15 – 17.15 น. (Daily)


จาก จ.อุดรธานี นั่งรถโดยสารระหว่างประเทศใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมงถึงสถานีขนส่งเวียงจันทน์
โดยเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินอุดรฯ สามารถนั่งรถตู้เข้ามาในตัวเมืองเพื่อไปสถานี บขส. (ค่าโดยสารประมาณ 70 บาท) หากต้องการความสะดวกไปกว่านั้นสามารถโทรเรียกรถแท็กซี่มิเตอร์ (ใหม่เอี่ยม, แอร์เย็น) ให้มารับยังสนามบินเพื่อไปส่งยังสะพานที่หนองคายก็ย่อมได้เช่นกัน ที่ด่าน ตม.หนองคาย (เปิด 06.00น.-22.00น.) จะมีค่าธรรมเนียม ตม. คนละ 5 บาท ซึ่งจะเก็บรวมอยู่ในตั๋วรถเรียบร้อยแล้ว

ข้อมูลล่าสุด: รถแท็กซี่มิเตอร์ไม่สามารถจอดรอผู้โดยสารในสนามบินได้ เนื่องจากในสนามบินจะมีคิวรถอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นรถแท็กซี่ป้ายดำ ราคาเช่าเหมาจะแพงกว่ารถแท็กซี่มิเตอร์และสภาพรถบางคันก็เก่า (ราคาอยู่ระหว่าง 800-1,000 บาท)

แต่ราคารถแท็กซี่มิเตอร์ราคาจะมีมาตราฐานและถูกกว่า (600 บาท ส่งถึงสะพาน)เบอร์โทรเรียกแท็กซี่มิเตอร์ 042-343239

ส่วน ตม.ฝั่งลาว จะมีค่าธรรมเนียมล่วงเวลาวันเสาร์-อาทิตย์ และนอกเวลาราชการ คนละ 5,000 กีบ
(หรือประมาณ 20 บาท) พอข้ามไปฝั่งลาวหากนั่งรถโดยสารระหว่างประเทศ รถจะไปจอดที่สถานีขนส่งเวียงจันทน์ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดเช้า แล้วค่อยเรียกรถจัมโบ้รถเพื่อนั่งเครื่องต่อไปหลวงพระบางอีกทีหนึ่งก็ย่อมได้

เวียงจันทน์ – หลวงพระบาง (สายการบินลาวทำการบินเส้นทางนี้วันละหลายเที่ยวบิน)

กรณีนั่งนกแอร์จากกรุงเทพรอบเช้าสุด น่าจะมาต่อเครื่องที่สนามบินวัดไต เวียงจันทน์ได้ทันเที่ยวบินรอบ 12.30 น. ซึ่งจะถึงหลวงพระบางเวลา 13.05 น. แล้วยังสามารถเหมารถจัมโบ้ (สกายแล็ป) เพื่อเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆในเมืองหลวงของประเทศลาวซักนิด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็น่าจะเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการทำเวลา แล้วค่อยไปขึ้นเครื่องต่อเพื่อไปหลวงพระบางก็ย่อมได้เช่นกัน

หลวงพระบาง – เวียงจันทน์ – อุดรธานี – กรุงเทพ

ในเที่ยวขากลับก็สามารถเลือกเที่ยวบินจากหลวงพระบาง โดยสารการบินลาว

รอบเช้า 8.00 น. QV112 บินทุกวันจันทร์ พฤหัส เสาร์
รอบบ่าย 11.00 น. QV110 บินทุกวันอังคาร ศุกร์ อาทิตย์

ค่าโดยสารคนละประมาณ 85 USD เพียง 30 นาทีก็มาถึงสนามบินสากลวัดไต เวียงจันทน์ จากนั้นเหมารถจากสนามบินให้ไปส่งที่สถานีรถโดยสาร (ตลาดเช้า) เพื่อรอขึ้นรถโดยสารระหว่างประเทศ จะต้องชำระค่าธรรมเนียม ตม.ไทย ตอนซื้อตั๋วอีก 5 บาท หรือ 2,000 กีบด้วย ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงถึง สถานีขนส่งอุดรธานี หลังผ่าน ด่านตม.ลาวที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จะต้องชำระค่าธรรมเนียมล่วงเวลา (กรณีผ่าน ตม.ช่วงวัน-เวลาหยุดราชการ) อีก 5,000 กีบ (หรือประมาณ 20 บาท)

ถ้าหากต้องการบินกลับกรุงเทพ ควรจะเลือกรอบเวลา 14.00 น. จากเวียงจันทน์

เมื่อถึงสถานีขนส่งอุดรธานีจะมีคนขับรถรับจ้างเข้ามารุมกันน่าดูทีเดียว ค่าโดยสารเหมาไปสนามบินอยู่ราวๆ 100 กว่าบาท แต่ถ้าหากจะประหยัดกว่า ก็เดินออกมารอรถสองแถวสาย 9 ตรงถนนใหญ่ด้านหน้าสถานีขนส่ง (คนละ 8 บาท) ไปตรง 5 แยก แล้วเปลี่ยนรถเป็นสาย 15 (คนละ 8 บาท) ต่อไปสนามบิน

อุดรธานี – กรุงเทพ

การบินไทย : (สุวรรณภูมิ)

TG1003 11.30 – 12.30 น. (Daily)
TG1011 15.15 – 16.15 น. (Daily)
TG1015 20.00 – 21.00 น. (Daily)

สายการบินนกแอร์ : (ดอนเมือง)

DD9201 07.35 – 08.35 น. (Daily)
DD9211 13.55 – 14.55 น. (Daily)
DD9217 18.35 - 19.35 น. (Daily)

สายการบินไทยแอร์เอเชีย : (สุวรรณภูมิ)

FD3361 08.55 – 10.00 น. (Daily)
FD3365 17.40 – 18.40 น. (Daily)

ตารางเวลาของแต่ละสายการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนการเดินทาง

Update ข้อมูลและตารางเวลาสายการบิน ล่าสุดเมื่อ 13 / Sep / 2010

เครดิต จาก information : blueplanet@pantip